กลุ่ม MIDO ได้ออกมาแฉว่ามีคลิปวิดีโอของ ทหารเมียนมา หรือ ชายในเครื่องแบบข่มขู่ประชาชนเป็นจำนวนมากบน TikTok รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 4 มีนาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า แอปพลิเคชั่น ติ๊กต็อก (TikTok) ได้ทำการลบคลิปวิดีโอจำนวนมากกว่า 800 คลิปที่เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเมียนมาที่ออกมาข่มขู่ผู้ชุมนุมต่อต้านการเผด็จการ ที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยกลุ่ม เมียนมา ไอซีที เพื่อการพัฒนา หรือ MIDO
ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคลิปวิดีโอดังกล่าวระบุว่า วิดีโอพวกนี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้น และยังมีวิดีโออีกมากที่มากที่มีเนื้อหาในลักษณะดังกล่าว ซึ่งทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้บรรยายคลิปวิดีโอหนึ่งที่เป็นคลิปของชายในเครื่องแบบทหารถือปืนพร้อมข้อความที่ข่มขู่ว่าจะยิงผู้ชุมนุมเข้าที่ใบหน้าด้วยกระสุนจริง และประกาศว่าจะยิงทุกคนที่อยู่นอกเคหสถานในช่วงกลางคืน โดยท้ายคลิปชายคนเดิมกล่าวว่า ถ้าหากใครอยากเป็นวีรบุรุษ เขาจะสนองความต้องการให้
รอยเตอร์ระบุว่าพวกเขาไม่สามารถติดต่อบุคคลที่อยู่คลิปได้และไม่สามารถยืนยันได้กลุ่มคนเหล่านี้เป็น เจ้าหน้าที่จากหน่วยรักษาความปลอดภัยจริงหรือไม่ นอกจากนี้ทางกองทัพก็ได้ออกมาปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวเช่นเดียวกัน
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือเดือนที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้ ทั้งนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีการโกงการเลือกตั้งขึ้น
จากการสลายการชุมนุมของกองทัพนั้นทำให้มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 60 ศพ และ ทางกองทัพยังได้จับกุมประชาชนรวมถึงนักข่าวเป็นจำนวนมาก โดย สมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 1,200 คน และยังมีผู้ถูกคุมขังมากกว่า 900 คน อย่างไรก็ตามสื่อในท้องถิ่นรายงานว่าตัวเลขที่แท้จริงอยู่ที่มากกว่า 1,300 คน
ญี่ปุ่น เตรียมประกาศ ต่อภาวะฉุกเฉิน ในกรุงโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงอีกสองสัปดาห์ หลังตัวเลขผู้ป่วยใหม่ลดไม่ถึงเป้า เมื่อวันที่ 5 มีนาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นเตรียมต่อภาวะฉุกเฉิน ในกรุงโตเกียว และจังหวัดใกล้เคียงสามจังหวัด จนไปถึงวันที่ 21 มีนาคม เพื่อต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงน่าเป็นห่วง
ประชากรในกรุงโตเกียว จังหวัดชิบะ, คานากาวา และ ไซตามะ คิดเป็นร้อยละ 30 ของประชากรประเทศญี่ปุ่น และในช่วงที่ผ่านมายอดป่วยลดลงไม่ถึงเป้า ทำให้ทางการต้องตัดสินยืดระยะเวลาภาวะฉุกเฉินไปอีกสองสัปดาห์
โดยคำสั่งภาวะฉุกเฉินจะร้องขอให้ร้านอาหารและบาร์หยุดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ในเวลา 19.00 น. และปิดให้บริการในช่วงเวลา 20.00 น. นอกจากนี้ทางการยังได้ร้องขอให้ประชาชนไม่มีเหตุจำเป็น ให้งดออกนอกเคหสถานหลัง 2 ทุ่ม คาดว่านายโยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีจะประกาศยืดระยะเวลาภาวะฉุกเฉินอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทางการญี่ปุ่นเล็งที่จะชะลอการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้ประเทศญี่ปุ่นสามารถจัดการแข่งขันมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงโตเกียวได้ทันเวลา โดยตามกำหนดการในขณะนี้ โอลิมปิกจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 กรกฎาคม ประเทศญี่ปุุ่นมียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 430,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดแล้ว 50 ศพ
ผู้แทนเมียนมา UN ลาออก หลังเพิ่งขึ้นตำแหน่ง
ผู้แทนเมียนมา ประจำ UN คนใหม่ประกาศ ลาออก จากตำแหน่ง หลังเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งแทนทูตชูสามนิ้วกลาง UN ได้ไม่นาน รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 3 มีนาคม สำนักข่าว อิรวดี รายงานว่านาย ถิ่น หม่อง หน่าย อุปทูตผู้แทนเมียนมาประจำสหประชาชาติ (UN) ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเพิ่งได้รับการแต่งตั้งแทนนาย จอ โม ตุน เอกอัครราชทูตผู้แทนเมียนมา UN ที่ถูกปลดจากตำแหน่งหลังชูสามนิ้ว เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนาย ถิ่น หม่อง หน่าย ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเพื่อยืนยีนว่าตนลาออกจากตำแหน่งแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ให้เหตุผลถึงการตัดสินใจในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม นายจอ โม ตุน ยังคงยืนยันว่าตนยังเป็นตัวแทนของเมียนมา เนื่องจากตนได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลประชาธิปไตย ที่ยังคงได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยแถลงการณ์ของซีอาร์พีเฮช คณะกรรมาธิการที่เป็นตัวแทน ส.ส.เอ็นแอลดี พรรครัฐบาลประกาศแต่งตั้งให้นาย จอ โม ตุน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลพลัดถิ่นเมียนมาด้วย
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้นาย จอ โม ตุน ได้กล่าวต่อต้านการก่อรัฐประหารของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย พร้อมชูสามนิ้ว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การต้านรัฐประหาร สร้างเสียงฮือฮาให้กับทั่วโลก
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ หรือเดือนที่ผ่านมานั้นกองทัพได้ทำการก่อรัฐประหารพร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้ ทั้งนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ไม่เคยแสดงหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ามีการโกงการเลือกตั้งขึ้น
จากการสลายการชุมนุมของกองทัพนั้นทำให้มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 60 ศพ และ ทางกองทัพยังได้จับกุมประชาชนรวมถึงนักข่าวเป็นจำนวนมาก โดย สมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมแล้วกว่า 1,200 คน และยังมีผู้ถูกคุมขังมากกว่า 900 คน อย่างไรก็ตามสื่อในท้องถิ่นรายงานว่าตัวเลขที่แท้จริงอยู่ที่มากกว่า 1,300 คน
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น